พระครูยติธรรมานุยุต หรือหลวงพ่อแป๊ะ เจ้าคณะตำบลบางกระเบา เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ อ.นครชัยศรี พร้อมเจ้าคณะอำเภอ นำสิ่งของไปมอบ และให้กำลังใจเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้ ถามย้ำ บ้านนี้เลขที่เท่าไร คอหวยหูผึ่งแห่หาซื้อลอตเตอรี่
เวลา 05.30 น. วันที่ 13 ม.ค.64 พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ รอดรัตนาทูล สว.สอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ตึกแถว ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร 26 เลขที่ 150/354 ซอยวาสนา 6 หมู่ 1 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาร ผกก.สภ.นครชัยศรี นายสมศักดิ์ เอี่ยมพินพันธ์ นายกเทศมนตรี ต.ขุนแก้ว นำรถดับเพลิงเทศบาล ต.ขุนแก้ว ออกช่วยสกัดเพลิง มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ร่วมเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็น ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายสิบห้อง พบเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านของ น.ส.คณนภัส ภมร อายุ 30 ปี เจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บ โดยกระโดดลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน บาดเจ็บที่ขาซ้าย และถูกไฟลวกที่มือ ร้องโอดโอย เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.นครชัยศรี ให้แพทย์ทำบาดแผล หลังเพลิงสงบ ได้เข้าตรวจสอบ พบว่าบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายทั้งหลัง
จากการสอบถาม น.ส.สุชิดา ภมร อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่หนีออกมาได้ บอกว่า บ้านหลังนี้อยู่ กัน 4 คน มีตน ลูกสาว ลูกเขย และหลานชาย 4 ขวบ โดยลูกสาวกับลูกเขย มีอาชีพขายปลาทูนึ่งตามตลาดนัด ทั้งสองจะออกไปขายในตอนเช้าและกลับบ้านเย็น ส่วนตนเองกับหลานจะอยู่ที่บ้าน ขณะเกิดเหตุทุกคนนอนบนชั้นสอง ตนได้กลิ่นไหม้ และร้อนทั้งๆ ที่อากาศเย็น จึงตื่นขึ้นมาก็พบว่าไฟกำลังไหม้บ้านที่ชั้นล่าง จึงรีบปลุกลูกสาวและลูกเขยและหลานให้รีบหนี เพราะไฟได้ลามมาถึงชั้นสอง จึงรีบปีนหน้าต่างชั้นสองลงมา
ส่วนลูกสาวลงมาคนสุดท้าย ไฟลวกตามแขนและขา จึงรีบกระโดดลงมาจากชั้นสองได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีใครเสียชีวิต นอกจากนี้ ไฟยังลามไปติดข้างห้องได้รับความเสียหายเล็กน้อยเพราะอาคารเป็นตัวปูน จากการสอบถามข้างบ้านทราบว่าได้ยินเสียงดังเหมือนระเบิด 1 ครั้ง แต่ยังไม่เห็นไฟ เพราะตัวอาคารติดกันกั้นด้วยแผงปูน คิดว่าของหล่น จนกระทั่งมีควันลอยเข้ามาในบ้านจึงวิ่งออกมาและจะโกนให้คนในบ้านตื่น พอดีดับเพลิงจากเทศบาลขุนแก้วมาเริ่มฉีดน้ำ หากมาไม่ทันไฟไหม้หมดบ้านเช่นกัน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุน่าจะเกิดมาจากไฟฟ้าลัดวงจร พร้อมกับได้ประสานเจ้าหน้าที่ กองวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 7 เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้
ขณะเดียวกันในช่วงบ่าย พระครูยติธรรมานุยุต หรือหลวงพ่อแป๊ะ เจ้าคณะตำบลบางกระเบา เจ้าอาวาสวัด สว่างอารมณ์ อ.นครชัยศรี หลังจากทราบเหตุเพลิงไหม้บ้านครั้งนี้ ได้ร่วมกับคณะสงฆ์ อ.นครชัยศรี พระครูสิริปุญญาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดสำโรง และผู้นำชุมชน นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้กับครอบครัวที่ถูกไฟไหม้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวผู้ประสบเหตุทั้ง 2 หลัง
หลังจากมอบสิ่งของแล้ว หลวงพ่อแป๊ะ ได้สอบถาม น.ส.สุชิตา ย้ำหลายรอบว่า บ้านเลขที่ที่ถูกไฟไหม้ เลขที่เท่าไร น.ส.สุชิตา บอกว่า 150/354 แล้ว หลวงพ่อแป๊ะ จึงบอกว่า เรื่องทุกข์หายไปแล้ว ต่อไปจะมีแต่เรื่องโชคดี หลังจากที่พูดเสร็จ บรรดาผู้นำชุมชนและผู้ติดตาม ต่างไปหาซื้อลอตเตอรี่ตตามแผงต่าง ๆ โดยเหมาซื้อกันหมด ซึ่งทุกคนเชื่อว่าหลวงพ่อแป๊ะ ให้โชค เพราะพูดถึงเลขที่บ้าน ย้ำอยู่หลายครั้ง
เจ้าของสุดดีใจ ได้ “ลูกควายแฝด” ตั้งชื่อ ค้ำ-คูน เชื่อจะโชคดี
ชาวบ้านที่กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ แห่มาดู “ลูกควายแฝด” เพศผู้กับเพศเมีย เจ้าของตั้งชื่อ ค้ำ และคูน เผยเลี้ยงควายมาหลายสิบปี ไม่เคยเจอลูกควายแฝด เชื่อจะนำโชคลาภมาให้
วันที่ 13 มกราคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านของนายวิชิต วงศ์ระโห อายุ 44 ปี เลขที่ 275 ม.13 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น เนื่องจากควายที่เลี้ยงไว้ได้ตกลูกออกมาเป็นฝาแฝดจำนวน 2 ตัว ซึ่งชาวบ้านบอกว่าเกิดมาไม่เคยเจอ เป็นเรื่องแปลก และเชื่อว่าการตกลูกแฝดครั้งนี้จะนำโชคลาภมาให้
จากการลงพื้นที่ บริเวณลานหน้าบ้านของนายวิชิต วงศ์ระโห อายุ 44 ปี พบว่ามีชาวบ้านเดินทางมามุงดูควาย 3 แม่ลูกจำนวนมาก เนื่องจากไม่เคยพบเห็น ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นความโชคดีของเจ้าของควาย และการที่ควายตกลูกแฝดครั้งนี้ จะทำให้เจ้าของได้โชคลาภอย่างแน่นอน
นายวิชิต วงศ์ระโห อายุ 44 ปี เจ้าของควาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองเลี้ยงควายมาหลายสิบปีก็ไม่เคยพบเจอควายตกลูกแฝดมาก่อน เพิ่งจะเคยเจอครั้งแรก ทั้งแปลกใจและดีใจ ถือว่าโชคดีอย่างมากที่ได้ควายฝาแฝดในครั้งนี้
โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา ได้นำควายเพศเมียที่เลี้ยงไว้ ชื่อเจ้าทอง อายุ 10 ปี ออกมาผูกไว้ที่ลานข้างบ้านเช่นทุกวัน แต่ครั้งนี้สังเกตเห็นเจ้าทองมีความผิดปกติคือเดินวนไปมาก่อนจะตกลูกออกมาตัวแรกเป็นเพศเมีย จากนั้นเวลาไม่ห่างกันมากนักก็ตกลูกตัวที่ 2 ออกมาเป็นเพศผู้ ซึ่งทั้ง 2 ตัวแข็งแรงดี
นายวิชิต กล่าวอีกว่า สำหรับลูกควายทั้ง 2 ตัวนั้น ตนได้ตั้งชื่อว่า ค้ำ และคูน เพราะเชื่อว่าควายตกลูกแฝดครั้งนี้จะทำให้ครอบครัวตนค้ำคูน และหากมีคนมาขอซื้อก็คงไม่ขาย จะเลี้ยงไว้เอง อย่างไรก็ตามหลังเจ้าทองตกลูกแฝด มีชาวบ้านในหมู่บ้านและบ้านใกล้เคียงที่ทราบข่าวต่างพากันเดินทางมาดูอย่างต่อเนื่อง เพราะชาวบ้านไม่เคยเห็นมาก่อน และยังเชื่อว่าควายตกลูกแฝดครั้งนี้ จะนำโชคลาภมาให้ หลายคนพากันตีเป็นเลขเด็ด เช่น 44, 33, 12, 11 เอาไว้เสี่ยงดวงอีกด้วย