เปิดตำนานพญาเต่างอย ที่เที่ยวศักดิ์สิทธิ์ให้โชคแก่ผู้ศรัทธา
เต่างอยคอยอ้าย กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังคลายมาตรการโควิด-19 นักท่องเที่ยวแห่กราบไหว้เพื่อความเป็นมงคล อธิษฐานขอโชคลาภกลับไปขอให้ร่ำรวย เหมาเลขเด็ดจากแผงลอตเตอรี่ที่มีอยู่ร่วม 100 แผงไปเกลี้ยง
ที่สวนสาธารณะอำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของพญาเต่างอยอันศักดิ์สิทธิ์ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่กันมาเที่ยวชมและกราบไหว้บูชา หลังจากที่ทางจังหวัดสั่งให้ปิด เนื่องจากเกรงประชาชนจะไม่ปลอดภัยจากสถานการณ์โควิด-19 มานานกว่า 3 เดือน จนกะทั่งมีการผ่อนปรนในระยะที่ 3
พบว่าบรรยากาศของการเดินทางมาเที่ยวชมและกราบไหว้พญาเต่างอยกลับมาคึกคัก ที่ลานจอดรถคลาคล่ำไปด้วยรถหลากหลายชนิด ทั้งรถยนต์โดยสาร รถยนต์ส่วนตัว รถปรับอากาศ ที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ โดยหลายคนบอกว่าอยากมานานแล้ว แต่ติดสถานการณ์โควิด เมื่อมีการผ่อนปรนแล้วจึงหาโอกาสมากราบไหว้สักการะเผื่อจะโชคดีกับเขาบ้าง ซึ่งไม่ได้งมงาย แต่เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อความสบายใจ
อย่างไรก็ตาม โดยรอบยังคงมีมาตรการป้องกันโรคโควิดอย่างเข้มข้น นักท่องเที่ยวที่จะผ่านเข้าไปชมพญาเต่างอย จะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ มีการสแกนวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ บางรายมาเป็นคณะด้วยรถปรับอากาศจึงต้องใช้เวลาในการคัดกรอง เมื่อผ่านเข้าไปแล้วก็เว้นระยะห่าง โดยข้างในมีการจำหน่ายอาหาร สินค้าที่ระลึกที่สื่อไปถึงอำเภอเต่างอย และพญาเต่างอย รวมถึงยังคงเปิดรับบริจาคสมทบทุนในการก่อสร้างสะพานบุญเพื่อข้ามลำน้ำพุงไปยังวัดศิริมังคละเต่างอย
พญาเต่างอย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังในหมู่นักเสี่ยงโชคและผู้ที่มีจิตศรัทธามากที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากผู้ที่เดินทางมาสักการะได้รับโชคกลับบ้านไปกันหลายราย
ซึ่งหลายๆ คนคงเคยได้ยินเพลงที่มีเนื้อร้องพูดถึงเต่างอยของคุณ จินตหรา พูนลาภ กันมาบ้างแล้ว ยิ่งตอกย้ำถึงความดังและเป็นที่นิยมของพญาเต่างอยนี้
วันนี้จะพาทุกคนไปเปิดตำนานความศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาของชาวสกลนครกันครับ
ตำนานพญาเต่างอย เล่าว่า เมื่อประมาณ 400 ปี ไทยได้ทำสงครามกับลาว ลาวพ่ายแพ้ จึงถูกกวาดต้อนมาอยู่ในประเทศไทย เมื่อมาถึงบริเวณลำน้ำพุง ลำน้ำขนาดใหญ่และมีเต่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
บริเวณฝั่งแม่น้ำพุง ผู้คนสมัยนั้นได้พิจารณาเห็นว่า มีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมจึงได้ตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัย ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านเต่างอย” ตามสถานที่พบเห็นเต่าที่กำลังลอยริมฝั่งแม่น้ำ
เชื่อว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น สัญลักษณ์ของอำเภอนี้จึงเป็นเต่า และได้ตั้งชื่ออำเภอว่า อำเภอเต่างอย มาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนั้นชาวบ้านและทางราชการต้องการที่จะสร้างสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเต่างอยขึ้นมา จึงได้ให้ช่างปั้นจากศูนย์ฝึกศิลปาชีพบ้านกุดนาขามมาสร้างรูปปั้นเต่ายักษ์ไว้บริเวณสวนสาธารณะหลังที่ทำการอำเภอเต่างอย
ลักษณะสำคัญของพญาเต่างอยคือเป็นเต่าขนาดใหญ่ เกล็ดบนหลังแต่ละเกล็ดมีรูปพระเกจิอาจารย์ประดับตกแต่ง บนหลังพญาเต่างอยประดับดอกบัวปั้น ในดอกบัวมีสร้อยทอง พระ ของขลังต่างๆ บรรจุไว้พร้อมฉาบปิดแน่นหนา
โดยผู้ที่ใส่เครื่องรางของขลังเหล่านั้นเชื่อว่าจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วยและเชื่อว่าหากใครได้มาสักการะบูชาจะทำให้อายุยืนยาวมีโชคมีลาภกลับบ้านไปทุกคน
ดังนั้นจึงมีผู้เดินทางมากราบไหว้และขอโชคขอลาภกับพญาเต่างอยไม่เว้นวัน และหลายๆ คนก็ได้โชคได้ลาภกลับไปจริงๆ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ต้องใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล
แต่หากใครอยากจะลองไปขอพรขอโชคขอลาภจากพญาเต่างอยดูก็ไม่เสียหาย หรือใครอยากจะไปชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของรูปปั้นพญาเต่างอยก็สามารถไปเที่ยวชมได้เช่นกันครับ